เมนู

ปริยาปันนกถา



[1579] สกวาที รูปราคะ นอนเนื่องอยู่ในรูปธาตุ นับเนื่องใน
รูปธาตุ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. รูปราคะ เป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ เป็นธรรมแสวง
หาอุปบัติ เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม สหรคต เกิดร่วม ระคน
สัมปยุต เกิดด้วยกัน ดับด้วยกัน มีวัตถุเป็นอันเดียวกัน มีอารมณ์เป็น
อันเดียวกัน กับจิตดวงแสวงหาสมาบัติ กับจิตดวงแสวงหาอุบัติ กับจิต
เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กามราคะ ไม่เป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ ไม่เป็น
ธรรมแสวงหาอุบัติ ไม่เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม จะ
สหรคต เกิดร่วม ระคน สัมปยุต เกิดด้วยกัน ดับด้วยกัน จะมีวัตถุเป็น
อันเดียวกัน จะมีอารมณ์เป็นอันเดียวกัน กับจิตดวงแสวงหาสมาบัติ ก็หา
มิได้. กับจิตดวงแสวงหาอุบัติ ก็หามิได้ กับจิตเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขใน
ทิฏฐธรรม ก็หามิได้ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กามราคะ ไม่เป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ ไม่
เป็นธรรมแสวงหาอุบัติ ไม่เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ฯลฯ
จะมีอารมณ์อันเดียวกัน ฯลฯ กับจิตเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม
ก็หามิได้ก็ต้องไม่กล่าวว่า รูปราคะ นอนเนื่องอยู่ในรูปธาตุ นับเนื่องอยู่
ในรูปธาตุ ฯลฯ

[1580] ส. รูปราคะ นอนเนื่องในรูปธาตุ นับเนื่องในรูปธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัททราคะ นอนเนื่องในสัททธาตุ นับเนื่องในสัทท-
ธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. รูปราคะ นอนเนื่องในรูปธาตุ นับเนื่องในรูปธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คันธราคะ ฯลฯ รสราคะ ฯลฯ โผฏฐัพพราคะ นอน
เนื่องในโผฏฐัพพธาตุ นับเนื่องในโผฏฐัพพธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1581] ส. สัททราคะ นอนเนื่องในสัททธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า
นับเนื่องในสัททธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. รูปราคะ นอนเนื่องในธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า นับ
เนื่องในรูปธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. คันธราคะ ฯลฯ รสราคะ ฯลฯ โผฏฐัพพธาตุ นอน
เนื่องในโผฏฐัพพธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในโผฏฐัพพธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. รูปราคะ นอนเนื่องในรูปธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า นับ
เนื่องในรูปธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ

[1582] ส. อรูปราคะ นอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อรูปราคะ เป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ เป็นธรรมแสวง
หาอุบัติ เป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม สหรคต เกิดร่วม ระคน
สัมปยุต เกิดด้วยกัน ดับด้วยกัน มีวัตถุเป็นอันเดียวกัน มีอารมณ์เป็น
อันเดียวกัน กับจิตดวงแสวงหาสมาบัติ กับจิตดวงแสวงหาอุบัติ กับจิต
เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อรูปราคะ จะเป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ จะเป็นธรรม
แสวงหาอุบัติ จะเป็นธรรมเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ฯลฯ จะมี
อารมณ์เป็นอันเดียวกัน ฯลฯ กับจิตเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม
ก็หามิได้ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า อรูปราคะ ไม่เป็นธรรมแสวงหาสมาบัติ ไม่
เป็นธรรมแสวงหาอุบัติ ฯลฯ จะมีอารมณ์เป็นอันเดียวกัน ฯลฯ กับจิต
เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในทิฏฐธรรม ก็หามิได้ ก็ต้องไม่กล่าวว่า อรูปราคะ
นอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ.
[1583] ส. อรูปราคะ นอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. สัททราคะ นอนเนื่องในสัททธาตุ นับเนื่องในสัททธาตุ

หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. อรูปราคะ นอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ
หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. คันธราคะ ฯลฯ รสราคะ ฯลฯ โผฏฐัพพราคะ นอน
เนื่องในโผฏฐัพพธาตุ นับเนื่องในโผฏฐัพพธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1584] ส. สัททราคะ นอนเนื่องในสัททธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า
นับเนื่องในสัททธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส .อรูปราคะ นอนเนื่องในอรูปธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า
นับเนื่องในอรูปธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. คันธราคะ ฯลฯ รสราคะ ฯลฯ โผฏฐัพพราคะ นอน
เนื่องในโผฏฐัพพธาตุ แต่ไม่พึงกล่าวว่า นับเนื่องในโผฏฐัพพธาตุ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. อรูปราคะ นอนเนื่องในอรูปธาตุ ไม่พึงกล่าวว่า
นับเนื่องในอรูปธาตุ หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[1585] ป. ไม่พึงกล่าวว่า รูปราคะนอนเนื่องในรูปธาตุ นับเนื่อง
ในรูปธาตุ อรูปราคะนอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ หรือ ?

ส. ถูกแล้ว.
ป. กามราคะนอนเนื่องในกามธาตุ นับเนื่องในกามธาตุ
มิใช่หรือ ?
ส. ถูกแล้ว.
ป. หากว่า กามราคะนอนเนื่องในกามธาตุ นับเนื่องใน
กามธาตุ ด้วยเหตุนั้นนะท่านจึงต้องกล่าวว่า รูปราคะนอนเนื่องในรูปธาตุ
นับเนื่องในรูปธาตุ อรูปราคะนอนเนื่องในอรูปธาตุ นับเนื่องในอรูปธาตุ
ปริยาปันนกถา จบ

อรรกถาปริยาปันนกถา



ว่าด้วย ธรรมที่นับเนื่องกัน



บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องธรรมที่นับเนื่องกัน. ในเรื่องนั้น ชนเหล่าใด มี
ความเห็นผิดดุจลัทธินิกายอันธกะและสมิติยะทั้งหลายว่า กามราคะ คือ
ความยินดีในกาม พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า นอนเนื่องในกามธาตุ นับ
เนื่องในกามธาตุ เหตุใด เพราะเหตุนั้น แม้รูปราคะ คือความยินดีในรูป
ก็ชื่อว่า นอนเนื่องในรูปธาตุและอรูปธาตุ นับเนื่องกันด้วยรูปธาตุและ
อรูปธาตุ ดังนี้ คำถามของสกวาทีว่า รูปราคะ เป็นต้น โดยหมายถึง
ชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ในคำเหล่านั้น คำว่า นอนเนื่อง
อธิบายว่า สกวาทีย่อมถามว่า กามราคะย่อมนอนเนื่องด้วยสามารถแห่ง
การเกิดพร้อมกับกามธาตุ กล่าวคือกามวิตก ฉันใด แม้รูปราคะก็เป็น
รูปธาตุตามลัทธิของท่าน ฉันนั้นหรือ. คำว่า นับเนื่อง อธิบายว่า สกวาที
ย่อมถามว่าเหมือนอย่างว่า การนับเนื่องนั้นชื่อว่านับเนื่องกันด้วยกามธาตุ